เดนนิส เรเดอร์ ฆาตกรสุดโหดที่ดูเหมือนคุณพ่อเฉิ่มๆ ธรรมดาๆ คนหนึ่ง เขามีครอบครัวและไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ แต่เบื้องหลังของเขาคือฆาตกรที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมไปมากมาย
เดนนิส เกิดและเติบโตในแคนซัส เขามีงานที่มั่นคงและยังเป็นประธานของโบสถ์อีกด้วย เขาดูเป็นคนรักครอบครัวแต่เบื้องหลังเขามีอาการป่วยทางจิตและมีแนวโน้มที่จะเป็นฆาตกร จนกระทั่งเขาเริ่มกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องในปี 1974 ที่สังหารเหยื่อไปกว่า 10 ศพ
การฆาตกรรมครั้งแรกของเขา เป็นที่มาของฉายา “BTK Killer” เมื่อจู่ๆ เขาก็เดินเข้าไปในบ้านของครอบครัวโอเทโร และทำการฆาตกรรม พ่อแม่ และลูกวัย 9 และ 11 ขวบ ทีละคน และทรมานพวกเขาทั้งหมดอย่างโหดเหี้ยม หลังจากที่เขาฆ่าทุกคนแล้ว เขาส่งจดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวเองไปให้ตำรวจและสื่อ โดยในจุดหมายระบุว่า เขาคือ BTK Killer ซึ่งวิธีการที่เขาชื่นชอบก็คือ การมัดเหยื่อ ทรมาน และฆ่า โดยมีชื่อเขาติดอยู่
หลังจากนั้น การฆ่าของเขาเริ่มพิศดารมากขึ้น ภาพถ่ายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เขาแต่งตัวเหยื่อด้วยเสื้อผ้าบางส่วนของเขา และเขาชอบการแสดงบทบาทสถานสมมุติระหว่างทำการฆาตกรรม
ตลอดทศวรรษที่ 70-90 การฆาตกรรมของเขาเป็นที่หวาดกลัวของชาวเมืองวิชิตา ในแคนซัส เป็นอย่างมาก ระบบรักษาความปลอดภัยเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุให้เดนนิสตัดสินใจทำงานเป็นคนติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อที่เขาจะได้ใช้ความรู้ตรงนี้ เป็นประโยชน์ในการบุกรุกบ้านคนอื่น
คดีฆาตกรรมสุดท้ายของเขา เกิดขึ้นในปี 1991 แต่ก็ไม่มีใครจับเขาได้ จนกระทั่งในปี 2004 เดนนิสแก้เบื่อโดยการเยาะเย้ยตำรวจอีกครั้ง เขาส่งจดหมาย 11 ฉบับและสิ่งของบางอย่างของคนที่เขาฆาตกรรม เช่นในขับขี่ และตุ๊กตาที่ถูกมัดหัวด้วยถุงพลาสติก ไปยังหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
แต่สุดท้ายเขากลับตายน้ำตื้น เมื่อเดินนิสถามตำรวจในจดหมายว่า ตำรวจจะตามรอยเขาได้หรือไม่ ถ้าเขาจะข้อมูลผ่าน Floppy Disk ตำรวจตอบเขากลับในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์วันต่อมาว่าไม่สามารถตามรอยได้ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เดนนิสส่งข้อมูลผ่าน Floppy Disk สีม่วง ซึ่งตำรวจได้กู้ข้อมูลที่เคยถูกลบไปเป็นไฟล์ Word ที่มีข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับโบสถ์ที่เขาทำหน้าที่เป็นประธาน และมีชื่อของเขาปรากฏอยู่ในเอกสารด้วย นั่นจึงเป็นจุดจบของ BTK Killer ในตำนาน
เนื่องจากในแคนซัส ไม่มีโทษประหารชีวิต เขาจึงถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตเป็นเวลา 10 รอบ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาจะต้องติดคุกถึง 175 ปี และโทษของเขาจะสิ้นสุดในปี 2180 ซึ่งทุกวันนี้ เขาต้องรับโทษโดยการถูกขังเดี่ยว 23 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งน่าจะเป็นโทษที่สาสมที่สุดสำหรับฆาตกรสุดโหดเหี้ยมรายนี้
credit ขอขอบคุณเนื้อหาจาก : thnewsths
